ชั้นมัธยมศึกษาปีที่2


หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
ความสำคัญของหลักฐานทางประวัติศาสตร์

คำชี้แจง  ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
  1.  หลักฐานที่เด่นมากในเรื่องของรายละเอียดและความถูกต้องของเวลา คือหลักฐานใด
       ก.   พงศาวดาร              ข.   จดหมายเหตุ
       ค.   ตำนาน                   ง.   จารึก
  2.  บิดาแห่งประวัติศาสตร์ชาติไทย คือใคร
       ก.   พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์
       ข.   พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
       ค.   สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
       ง.   ศาสตราจารย์ขจร สุขพานิช
  3.  ลักษณะนิสัยใด ที่มีความจำเป็นน้อยสำหรับ                 นักประวัติศาสตร์
       ก.   ชอบวาดภาพ            ข.   ชอบจดบันทึก
       ค.   ชอบค้นหา               ง.   ชอบสังเกต
  4.  เรื่องราวในประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นมาแล้วจะมีความน่าเชื่อถือหากเป็นกรณีใด
       ก.   ผู้เขียนเป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ
       ข.   มีการเรียบเรียงอย่างสละสลวย
       ค.   มีหลักฐานอ้างอิงสนับสนุน
       ง.   ผู้เขียนเป็นราชนิกูล
  5.  ถ้ามีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาประเทศไทย แล้วเขียนหนังสือบรรยายว่าประเทศไทยล้าหลัง ด้อยพัฒนา เพราะยังมีการกินอาหารด้วยมือหรือไม่สวมเสื้อผ้า นักเรียนคิดว่า ข้อความนี้จะใช้เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ในอนาคตได้หรือไม่
       ก.   ได้ แต่ต้องมีการตีความหลักฐาน
       ข.   ได้ เพราะเป็นหลักฐานชั้นต้น
       ค.   ไม่ได้ เพราะผู้เขียนไม่ใช่คนไทย
       ง.   ไม่ได้ เพราะเป็นหลักฐานเท็จ

6. ข้อใดเป็นขั้นตอนแรกของวิธีการทางประวัติศาสตร์
       ก.   การเรียบเรียงหรือการนำเสนอ
       ข.   การประเมินคุณค่าของหลักฐาน
       ค.   การกำหนดหัวเรื่องที่จะศึกษา
       ง.   การรวบรวมหลักฐาน
  7.  บันทึกเหตุการณ์ของ วัน วลิต ชาวต่างชาติที่เดินทาง  เข้ามาในสมัยอยุธยา เป็นหลักฐานประเภทใด
       ก.   หลักฐานชั้นรอง-ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร
       ข.   หลักฐานชั้นต้น-ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร
       ค.   หลักฐานชั้นรอง-เป็นลายลักษณ์อักษร
       ง.   หลักฐานชั้นต้น-เป็นลายลักษณ์อักษร   
  8.  เรื่องราวที่ปรากฏในพงศาวดารจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรเป็นส่วนใหญ่
       ก.   พระราชกรณียกิจของกษัตริย์
       ข.   การเผยแผ่พระพุทธศาสนา
       ค.   ความเป็นอยู่ของไพร่ฟ้า
       ง.   สงครามกับเพื่อนบ้าน
  9.  เรื่องราวของมะกะโทที่เข้ามารับราชการในสมัยพระร่วง จัดเป็นหลักฐานประเภทใด
       ก.   ตำนานหรือนิทานพื้นบ้าน
       ข.   หลักฐานโบราณคดี
       ค.   บันทึกชาวต่างชาติ
       ง.   พงศาวดาร
10.  เพราะเหตุใด จึงต้องมีการประเมินคุณค่าหลักฐานทางประวัติศาสตร์
       ก.   หลักฐานอาจมากหรือน้อย
       ข.   หลักฐานอาจมีหรือไม่มี
       ค.   หลักฐานอาจจริงหรือเท็จ
       ง.   หลักฐานอาจเก่าหรือใหม่



หน่วยการเรียนรู้ที่ 2
พัฒนาการของอาณาจักรอยุธยา

คำชี้แจง  ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
  1.  ความสัมพันธ์กับต่างประเทศโดยเฉพาะชาติตะวันตกมีความเจริญสูงสุดในสมัยใด
       ก.   สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ
       ข.   สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
       ค.   สมเด็จพระนารายณ์มหาราช
       ง.   สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
  2.  หน่วยงานสำคัญที่ทำหน้าที่ในการติดต่อค้าขายกับต่างชาติ คือหน่วยงานใด
       ก.   พระคลังมหาสมบัติ
       ข.   กองสำเภาหลวง
       ค.   พระคลังสินค้า
       ง.   กรมพาณิชย์
  3.  กรุงศรีอยุธยาใช้การค้ารูปแบบใดในการติดต่อค้าขายกับประเทศจีน
       ก.   การค้าแบบแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกัน
       ข.   การค้าแบบใช้ทองคำเป็นสื่อกลาง
       ค.   การค้าแบบต่างตอบแทน
       ง.   การค้าแบบบรรณาการ
  4.  ข้อใดไม่ถือเป็นปัจจัยทางภูมิศาสตร์ที่สำคัญ ซึ่งมีผลต่อพัฒนาการของอาณาจักรอยุธยา
       ก.   พระมหากษัตริย์ทรงส่งเสริมให้ราษฎรประกอบอาชีพ     ได้อย่างเสรี
       ข.   เป็นเมืองที่สำคัญทางการค้ากับต่างประเทศ
       ค.   มีทำเลที่ตั้งเหมาะสมแก่การเพาะปลูก
       ง.   ตั้งอยู่ในชัยภูมิที่ดี
  5.  ความสัมพันธ์ของอยุธยากับประเทศใดมีลักษณะของการผูกมิตร และเชื่อมสัมพันธไมตรี
       ก.   พม่า
       ข.   ญวน
       ค.   ล้านนา
       ง.   ล้านช้าง
6. ข้อใดกล่าวได้ถูกต้องเกี่ยวกับวัฒนธรรมในสมัยอยุธยา
       ก.   ชาวอยุธยานิยมความสนุกสนานจึงมักสร้างสรรค์  ประเพณีที่รื่นเริง
       ข.   วัฒนธรรมจากต่างชาติไม่ได้รับการยอมรับจากคนในกรุงศรีอยุธยา
       ค.   วัฒนธรรมส่วนใหญ่ในสมัยอยุธยามักเกี่ยวข้องกับชนชั้นสูงเป็นหลัก
       ง.   อาชีพหลักในสมัยอยุธยาคือเกษตรกรรม ประเพณี     ส่วนใหญ่จึงเกี่ยวข้องกับการเกษตร
  7.  ศิลปกรรมของไทยสมัยอยุธยาที่ตกทอดมาจนถึงปัจจุบันได้แก่อะไร
       ก.   เครื่องถ้วยชามเบญจรงค์
       ข.   เครื่องถ้วยชามสังคโลก
       ค.   ภาพวาดสีน้ำมัน
       ง.   การทอผ้าไหม

8. ข้อใดคือชนชั้นพิเศษที่ได้รับความเคารพจากทุกชนชั้นในสมัยอยุธยา
       ก.   พระบรมวงศานุวงศ์
       ข.   พระมหากษัตริย์
       ค.   พระสงฆ์
       ง.   ขุนนาง
  9.  สาเหตุสำคัญที่ทำให้สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ        ทรงแบ่งแยกหน้าที่ระหว่างฝ่ายทหารกับฝ่ายพลเรือน ออกจากกัน คือข้อใด
       ก.   เพื่อให้ราษฎรจดจำหน้าที่ของทั้งสองฝ่ายได้ง่ายและถูกต้อง
       ข.   เพื่อป้องกันไม่ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีอำนาจมากจนเกินไป
       ค.   เพื่อป้องกันเหตุกระทบกระทั่งกันระหว่างสองฝ่าย
       ง.   เพื่อให้หน้าที่ของทั้งสองฝ่ายชัดเจนขึ้น
10.  กรุงศรีอยุธยาทำสงครามครั้งแรกกับพม่าในกรณีที่สืบเนื่องมาจากเมืองใด
       ก.   ล้านช้าง                  ข.   มลายู
       ค.   มอญ                      ง.   ญวน
11. โกษาธิบดี ถือเป็นสิ่งใดที่กำหนดไว้ในพระราชกำหนดศักดินา
       ก.   ราชทินนาม            
       ข.   บรรดาศักดิ์
       ค.   ตำแหน่ง                
       ง.   ยศ
12.  อาณาจักรอยุธยาเกิดจากการรวมตัวกันระหว่างแคว้นสำคัญ 2 แคว้น ได้แก่แคว้นใด
       ก.   แคว้นสุพรรณภูมิ กับแคว้นสุโขทัย
       ข.   แคว้นสุพรรณภูมิ กับแคว้นไทรบุรี
       ค.   แคว้นละโว้ กับแคว้นสุพรรณภูมิ
       ง.   แคว้นละโว้ กับแคว้นไทรบุรี
13.  ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการสร้างสรรค์ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทยสมัยอยุธยามีหลายประการ ยกเว้นข้อใด
       ก.   การมีรายได้จากการเก็บภาษีบางประเภท
       ข.   ลักษณะทางภูมิศาสตร์และสิ่งแวดล้อม
       ค.   ลักษณะทางสังคมและวัฒนธรรม
       ง.   การติดต่อกับชาวต่างชาติ
14. หัวเมืองระดับใดในการปกครองส่วนภูมิภาคที่เจ้าเมืองมีอำนาจปกครองตนเอง แต่จะต้องส่งเครื่องราชบรรณาการมาถวายพระมหากษัตริย์ตามเวลาที่กำหนด
       ก.   หัวเมืองประเทศราช
       ข.   หัวเมืองชั้นนอก
       ค.   หัวเมืองชั้นใน
       ง.   เมืองลูกหลวง
15.  ข้อใดเป็นความสัมพันธ์ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดระหว่างกรุงศรีอยุธยากับเขมร
       ก.   ความสัมพันธ์ทางการปกครอง
       ข.   ความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรม
       ค.   ความสัมพันธ์ทางการเมือง
       ง.   ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ



หน่วยการเรียนรู้ที่ 3
พัฒนาการของอาณาจักรธนบุรี

คำชี้แจง  ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. พระยาตากเตรียมการกอบกู้เอกราชอย่างไร
       ก.   ประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง
       ข.   ใช้เวลารวบรวมกำลังพลนานถึง 15 ปี 
       ค.   ต่อเรือและนำกองทัพเรือเข้าโจมตีพม่า
       ง.   ตั้งกรุงธนบุรีแล้วจึงตีค่ายโพธิ์สามต้น
  2.  คำกล่าวที่ว่า “การตั้งธนบุรีเป็นราชธานีเพราะเหมาะแก่การค้ากับต่างประเทศ” คำที่ขีดเส้นใต้ หมายความว่าอย่างไร
       ก.   ตั้งอยู่ใกล้ปากน้ำเจ้าพระยา เรือสินค้าเข้ามาค้าขาย     ได้สะดวก
       ข.   มีพ่อค้าจีนที่ชำนาญการค้าทางเรือเข้ามาติดต่อ   ค้าขาย
       ค.   มีคลองภายในมากมายเป็นเส้นทางการค้า
       ง.   มีแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่านกลางพระนคร
  3.  สงครามครั้งใดสำคัญที่สุดระหว่างไทยกับพม่า
       ในสมัยธนบุรี
       ก.   ศึกเมืองพิษณุโลก
       ข.   ศึกเมืองเชียงใหม่
       ค.   ศึกเมืองพิชัย
       ง.   ศึกบางกุ้ง
  4.  เหตุการณ์ใด เป็นเหตุการณ์แรกที่ทำให้เกิดการ
       เสื่อมอำนาจของอาณาจักรธนบุรี
       ก.   ประเทศราชของไทยแยกตัวเป็นอิสระ
       ข.   พระเจ้าตากลาผนวช
       ค.   พระยาสรรค์ก่อกบฏ
       ง.   ศึกอะแซหวุ่นกี้
  5.  การเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 เกิดขึ้นในรัชสมัย
       ของกษัตริย์พระองค์ใด
       ก.   สมเด็จพระเพทราชา
       ข.   สมเด็จพระราเมศวร
       ค.   สมเด็จพระมหินทราธิราช
       ง.   สมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อัมรินทร์
6. เหตุผลสำคัญในข้อใดที่ทำให้พระยาตากตัดสินใจละทิ้งการป้องกันอยุธยาในสงครามก่อนเสียกรุงศรีอยุธยา
       ครั้งที่ 2
       ก.   เห็นว่ากำลังของอยุธยาไม่สามารถสู้กับ
            กองทัพพม่าได้
       ข.   ท้อใจเพราะไม่ได้รับการสนับสนุนในการสู้รบ
       ค.   คิดจะแย่งชิงอำนาจจากพระเจ้าเอกทัศน์
       ง.   ต้องการตั้งราชธานีใหม่แทนอยุธยา
  7.  พระเจ้าตากทรงแก้ปัญหาเศรษฐกิจใดเป็นอันดับแรก
       ก.   ซื้อข้าวมาแจกจ่ายแก่ราษฎร
       ข.   ส่งเสริมการค้ากับจีน
       ค.   ให้ข้าราชการทำนา
       ง.   ขยายพื้นที่ทำนา
8. เพราะเหตุใด พระยาตากพร้อมพรรคพวกจึงตัดสินใจ
       ตีฝ่าวงล้อมพม่าไปทางทิศตะวันออกในสงคราม
       เสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2
       ก.   จันทบุรีมีกำลังคน ป้อมปราการ อาหารอุดมสมบูรณ์
       ข.   เป็นชุมชนชาวจีนเช่นเดียวกับพระยาตาก
       ค.   ต้องการไปตั้งราชธานีใหม่ที่จันทบุรี
       ง.   หนีพม่าได้สะดวก


  9.  สมุดภาพไตรภูมิ เป็นผลงานชิ้นสำคัญที่สุด
       ของอาณาจักรธนบุรีในด้านใด
       ก.   วรรณกรรม             
       ข.   จิตรกรรม
       ค.   ประณีตศิลป์            
       ง.   ประติมากรรม
10.  เพราะเหตุใด พระเจ้าตากจึงต้องตัดสินพระทัย
       ย้ายราชธานี
       ก.   สภาพภูมิประเทศของอยุธยาไม่เอื้อต่อการค้า
            ระหว่างประเทศ
       ข.   อยุธยาถูกเผาทำลายมีสภาพทรุดโทรมมาก
       ค.   อยุธยาเกิดอุทกภัยบ่อยครั้ง
       ง.   อยุธยาขาดแคลนอาหาร
11. หลังเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 สภาพบ้านเมืองของอยุธยามีลักษณะอย่างไร
       ก.   อยุธยาได้รับความเสียหายมากจนไม่สามารถ
            เป็นราชธานีได้
       ข.   เขมรเข้ายึดครองหัวเมืองชายฝั่งตะวันออกของไทย
       ค.   พม่ายึดอยุธยาเป็นเมืองประเทศราช
       ง.   ลาวตั้งตนเป็นอิสระจากอยุธยา
12.  ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน
       ในสมัยธนบุรี มีลักษณะอย่างไร
       ก.   ทำสงครามกับญวนและมลายูเพื่อขยายอาณาเขต
       ข.   ทำสงครามกับพม่าเพื่อป้องกันราชอาณาจักร
       ค.   ขาดการติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน
       ง.   เป็นมิตรกับทุกประเทศ
13.  วันที่ 28 ธันวาคม ของทุกปี มีความเกี่ยวข้องอย่างไร
       กับอาณาจักรธนบุรี
       ก.   วันสวรรคตของพระเจ้าตาก
       ข.   วันบรมราชาภิเษกของพระเจ้าตาก
       ค.   วันปราบดาภิเษกของพระเจ้าตาก
       ง.   วันสถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานี
14. เพราะเหตุใด ศิลปวัฒนธรรมซึ่งเป็นภูมิปัญญา
       ในสมัยธนบุรีจึงมีจำนวนน้อย
       ก.   ต้องทำสงครามเป็นส่วนใหญ่จึงไม่มีเวลาฟื้นฟู     ศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญา
       ข.   พระเจ้าตากชำนาญในการรบมากกว่างานด้าน     ศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญา
       ค.   ขาดแคลนกำลังทรัพย์ในการอนุรักษ์ฟื้นฟู     ศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญา
       ง.   ยังมีศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาของอยุธยา  หลงเหลืออยู่
15.  ข้อใดอธิบายการจัดการปกครองในสมัยธนบุรี ไม่ถูกต้อง
       ก.   ความสัมพันธ์ระหว่างกษัตริย์กับราษฎรมีความ
            ใกล้ชิดเหมือนพ่อปกครองลูก
       ข.   เมืองพระยามหานครปกครองแบบจตุสดมภ์     เช่นเดียวกับราชธานี
       ค.   พระมหากษัตริย์มีอำนาจสูงสุดในการปกครอง
       ง.   จัดการปกครองตามแบบอยุธยาตอนปลาย


หน่วยการเรียนรู้ที่ 4
ประวัติและผลงานของบุคคลสำคัญในการสร้างสรรค์ชาติไทย

คำชี้แจง  ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. ถึงแม้ว่าฝรั่งเศสจะเป็นชาติมหาอำนาจในขณะนั้น
       แต่เพราะเหตุผลใด ฝรั่งเศสจึงเป็นฝ่ายเริ่มส่งทูต
       มาเจริญสัมพันธไมตรีกับอยุธยา
       ก.   ต้องการโน้มน้าวให้สมเด็จพระนารายณ์มหาราช  เปลี่ยนไปนับถือคริสต์ศาสนา
       ข.   ต้องการยึดครองทรัพยากรของไทย
       ค.   ต้องการเผยแผ่คริสต์ศาสนานิกายโปรแตสแตนท์
       ง.   ต้องการค้าขายอาวุธยุทโธปกรณ์
  2.  จากการศึกษาพระราชประวัติของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก (ทองด้วง)  และเจ้าพระยาสุรสีห์ (บุญมา) พบว่ามีส่วนเหมือนกัน
       ในเรื่องใด
       ก.   การแต่งวรรณกรรมเกี่ยวกับสงครามกับพม่า
       ข.   การเปิดประเทศกับชาติตะวันตก
       ค.   การติดต่อค้าขายกับจีน
       ง.   การทำสงครามกับพม่า
  3.  สถานที่ใดที่ออกญาโกษาปานเข้าเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส
       ก.   พระราชวังบักกิงแฮม
       ข.   พระราชวังแวร์ซาย
       ค.   พระราชวังเครมลิน
       ง.   พระราชวังซอบูร์ก
  4.  ลาลูแบร์ เดินทางเข้ามาอยุธยาด้วยจุดประสงค์ด้านใด
       ก.   เจริญสัมพันธไมตรี    
       ข.   ศาสนา
       ค.   การค้า
       ง.   ทั้งศาสนาและการค้า
  5.  สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก (ทองด้วง) มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาชาติไทยในด้านใดเด่นชัดที่สุด
       ก.   รวบรวมกฎหมายเก่าให้เป็นระบบ
       ข.   สถาปนากรุงรัตนโกสินทร์
       ค.   จัดระเบียบบ้านเมือง
       ง.   ทำสงครามกับพม่า
6. การที่ชาวฝรั่งเศสเข้ามามีบทบาทในการปกครองอยุธยาในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ส่งผลต่ออยุธยาอย่างไร
       ก.   ประเทศราชต่างๆ ส่งบรรณาการตามปกติ         
       ข.   พม่าเกรงกลัวไม่ทำสงครามกับไทย
       ค.   ฝรั่งเศสเข้าแทรกแซงอยุธยา
       ง.   การค้ากับต่างชาติรุ่งเรืองดี
  7.  การปกครองแบบจตุสดมภ์ในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดี
       ที่ 1 (อู่ทอง) มีวัตถุประสงค์หลักอย่างไร
       ก.   กำหนดระดับของบทลงโทษสำหรับผู้กระทำความผิด
       ข.   จัดระบบการปกครองให้มีระเบียบแบบแผน
       ค.   กระจายอำนาจสู่การปกครองส่วนท้องถิ่น
       ง.   กำหนดบทบาทหน้าที่ของคนในสังคม
  8.  พระราชกรณียกิจด้านใดของพระเจ้าตากสินที่มีส่วนสำคัญที่สุดในการพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชน
       ก.   ปราบชุมนุมเพื่อรวมชาติ
       ข.   ค้าขายกับชาติตะวันตก
       ค.   ค้าขายกับจีน
       ง.   กู้ชาติ
  9.  สิ่งใดที่ออกญาโกษาปานแสดงออกจนเป็นที่ประทับใจของฝรั่งเศส
       ก.   ปฏิบัติตามธรรมเนียมการเข้าเฝ้าของชาวฝรั่งเศส
            ได้ถูกต้อง
       ข.   ไม่เกรงกลัวฝรั่งเศสเหมือนชาติอื่นๆ
       ค.   ใช้ภาษาฝรั่งเศสได้คล่องแคล่ว
       ง.   ความเฉลียวฉลาดในการเรียนรู้
10.  สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงปฏิรูปการปกครองอยุธยาอย่างไร
       ก.   รวมทหารและพลเรือนตามหัวเมืองเข้าด้วยกัน
       ข.   แบ่งอำนาจให้หัวเมืองชั้นนอกมีอำนาจมากขึ้น
       ค.   แยกทหารออกจากพลเรือน
       ง.   รวมอำนาจสู่ส่วนกลาง

11.  สมเด็จพระนารายณ์มหาราชมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาการศึกษาไทยอย่างไร
       ก.   ทรงสนับสนุนให้ชาวอยุธยาเรียนรู้ขนบธรรมเนียม ของชาวตะวันตก
       ข.   ทรงอนุญาตให้ชาวตะวันตกเข้ามาสอนภาษา
            และเผยแผ่ศาสนา     
       ค.   ทรงโปรดให้พระโหราธิบดีแต่งหนังสือจินดามณี
       ง.   ทรงพระราชนิพนธ์สมุทรโฆษคำฉันท์
12.  บทบาทสำคัญของสมเด็จพระเพทราชาที่มีต่อชาติไทย
       คืออะไร
       ก.   ทำสงครามครั้งสุดท้ายของอยุธยากับพม่า
       ข.   ติดต่อค้าขายกับจีนและญี่ปุ่นเท่านั้น
       ค.   ขจัดอิทธิพลของฝรั่งเศสในอยุธยา
       ง.   ปฏิรูปการทหาร
13.  นโยบายการทูตใดที่สมเด็จพระนารายณ์ใช้ในการติดต่อกับชาติตะวันตก
       ก.   ติดต่อกับทุกชาติเท่าเทียมกัน
       ข.   ใช้นโยบายถ่วงดุลอำนาจ
       ค.   ค้าขายกับจีนเท่านั้น
       ง.   ใช้นโยบายลู่ตามลม
14.  งานเขียนของฟาน ฟลีต มีประโยชน์ในการศึกษาประวัติศาสตร์อยุธยาอย่างไร
       ก.   เป็นหลักฐานสำคัญของอยุธยา          
       ข.   เขียนยกย่องกษัตริย์อยุธยาทุกพระองค์
       ค.   รู้จักการดำเนินนโยบายต่างประเทศของอยุธยา
       ง.   ใช้ตรวจสอบกับหลักฐานอื่นๆ
15.  เพราะเหตุใดในสมัยสมเด็จพระเพทราชาจึงมีการก่อกบฏหลายครั้ง
       ก.   อำนาจของอยุธยายังไม่มั่นคงเนื่องจากการผลัด   แผ่นดินครั้งใหญ่
       ข.   ประชาชนส่วนใหญ่ไม่พอใจที่พระองค์ยึดอำนาจ
            ในวังลพบุรี
       ค.   ขุนนางขาดความสามัคคีและฉ้อราษฎร์บังหลวง
       ง.   ชาวฝรั่งเศสไม่พอใจที่ถูกกวาดล้างอิทธิพล
16.  หลังจากการทำยุทธหัตถีระหว่างสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และพระมหาอุปราชของพม่า ส่งผลอย่างไร
       ต่อท่าทีของพม่าที่มีต่อไทย
       ก.   กษัตริย์พม่าส่งเครื่องราชบรรณาการมาสวามิภักดิ์
            ต่อกรุงศรีอยุธยา
       ข.   พม่าว่างเว้นจากการเข้ามารุกรานกรุงศรีอยุธยา
       ค.   กรุงศรีอยุธยาแผ่แสนยานุภาพได้กว้างไกล
       ง.   พม่าตกเป็นประเทศราชของกรุงศรีอยุธยา
17.  สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงใช้สิ่งใดในการกำหนดสิทธิและหน้าที่ของคนในสังคม
       ก.   การเป็นทหารหรือพลเรือน
       ข.   พระราชกำหนดศักดินา
       ค.   หน้าที่การงาน
       ง.   ระบบไพร่
18.  ประโยชน์ที่ไทยได้จากการมีสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศสในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชคืออะไร
       ก.   จีนยกเลิกการค้าในระบบบรรณาการกับอยุธยา
       ข.   ชาติตะวันตกเข้ามาติดต่อกับอยุธยามากขึ้น
       ค.   ป้องกันการคุกคามของฮอลันดาได้
       ง.   เริ่มมีการทำสัญญาทางการค้าครั้งแรก 
19.  จดหมายเหตุลาลูแบร์มีความสำคัญอย่างไรต่อการศึกษาประวัติศาสตร์อยุธยา
       ก.   ให้ข้อมูลทั่วไปของอยุธยาในสายตาของชาติตะวันตก
       ข.   เป็นพงศาวดารอยุธยาตามแบบชาติตะวันตก
       ค.   ทราบเกี่ยวกับการค้ากับชาติตะวันตก
       ง.   ชาติตะวันตกรู้จักอยุธยามากขึ้น
20.  วีรกรรมของสมเด็จพระสุริโยทัยในการปกป้อง
       สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ จากการชนช้างกับพระเจ้าแปรที่ทุ่งมะขามหย่อง เป็นแบบอย่างให้คนไทยเรื่องใด
       ก.   ความชำนาญในการขี่ช้าง
       ข.   ความสามารถในการรบ
       ค.   ความรักในครอบครัว
       ง.   ความเสียสละ



หน่วยการเรียนรู้ที่ 5
ที่ตั้งและสภาพภูมิศาสตร์ที่มีผลต่อพัฒนาการของทวีปเอเชีย

คำชี้แจง  ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. เหตุการณ์ใดทำให้ภูมิภาคเอเชียตะวันตกเฉียงใต้                มีความสำคัญต่อโลก
       ก.   การค้นพบเส้นทางการค้าทางบก
       ข.   การเป็นศูนย์กลางศาสนาอิสลาม
       ค.   การค้นพบก๊าซธรรมชาติ
       ง.   การขุดคลองสุเอซ
  2.  ปัจจุบันประเทศใดที่มีบทบาทสำคัญในภูมิภาคเอเชียกลาง
       ก.   รัสเซีย
       ข.   จีน
       ค.   เกาหลี
       ง.   สหรัฐอเมริกา
  3.  ภูมิประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันตกเฉียงใต้มีลักษณะอย่างไร
       ก.   ที่ราบสูง และทะเลทราย
       ข.   เทือกเขาสูง และทะเลทราย
       ค.   ที่ราบลุ่มแม่น้ำ และทะเลทราย
       ง.   ที่ราบชายฝั่งทะเล และทะเลทราย
  4.  ปัจจัยใดเป็นสาเหตุสำคัญที่เป็นอุปสรรคต่อความเจริญทางการค้าของเอเชียกลาง
       ก.   ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ไม่มีทางออกสู่มหาสมุทร
       ข.   ประชากรส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร
       ค.   ประสบภัยธรรมชาติบ่อยครั้ง
       ง.   อยู่ห่างไกลตลาด
  5.  ลักษณะภูมิประเทศในเอเชียใต้ทำให้ต้องใช้เส้นทางใดติดต่อกับโลกภายนอก
       ก.   ทะเลทรายโกบี
       ข.   ช่องเขาไคเบอร์
       ค.   ที่ราบชายฝั่งทะเล
       ง.   แม่น้ำคงคา แม่น้ำสินธุ
6. เส้นทางการค้าใดของเอเชียกลางในอดีตที่เชื่อมระหว่างโลกตะวันตกและโลกตะวันออก
       ก.   ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
       ข.   เส้นทางสายแพรไหม
       ค.   มหาสมุทรแปซิฟิก
       ง.   ทะเลสาบแคสเปียน
  7.  ลักษณะภูมิประเทศแบบใดช่วยป้องกันภูมิภาคเอเชียตะวันออกจากการรุกรานจากภายนอกและขยายอำนาจออกไปภายนอกได้ยาก
       ก.   ที่ราบน้ำท่วมถึง และทะเลทราย
       ข.   เทือกเขาสูง และทะเลทราย
       ค.   ที่ราบสูง และทะเลทราย  
       ง.   เทือกเขา และที่สูง
  8.  ประเทศในเอเชียกลางเป็นอิสระจากการยึดครองของสหภาพโซเวียตจากเหตุการณ์ใด
       ก.   สหภาพโซเวียตล่มสลาย
       ข.   ยกเลิกสัญญาวอร์ซอ
       ค.   อาหรับสปริง
       ง.   เหตุการณ์ 911
  9.  วัฒนธรรมอาหรับถ่ายทอดไปยังทวีปยุโรปได้อย่างไร     
       ก.   เคยปกครองยุโรป
       ข.   สงครามครูเสด
       ค.   การค้าขาย
       ง.   การเดินเรือ
10.  เกาหลียังประสบปัญหาการเมืองเรื่องใดหลังจากได้รับ เอกราชภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้ว
       ก.   ทั้งเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ปกครองแบบ     คอมมิวนิสต์
       ข.   ทั้งเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ปกครองแบบ     ประชาธิปไตย
       ค.   เกาหลีใต้ปกครองแบบคอมมิวนิสต์ เกาหลีเหนือ  ปกครองแบบประชาธิปไตย
       ง.   เกาหลีเหนือปกครองแบบคอมมิวนิสต์ เกาหลีใต้  ปกครองแบบประชาธิปไตย
11.  ปัญหาการเมืองในเอเชียใต้เกิดจากความขัดแย้ง
       ในเรื่องใด
       ก.   เชื้อชาติสิงหลทำสงครามกับเชื้อสายปาทาน
       ข.   ความขัดแย้งทางเชื้อชาติทมิฬและสิงหล
       ค.   ต้องการแยกประเทศเป็นอิสระ
       ง.   ความขัดแย้งทางศาสนา
12.  ภายหลังการเข้ามาของชาติตะวันตกพรรคคอมมิวนิสต์จีนมีนโยบายใดที่ทำให้เศรษฐกิจจีนดีขึ้น
       ก.   ปฏิรูปที่ดินให้ประชาชนมีที่ดินทำกิน
       ข.   ปฏิรูปการศึกษาเน้นวิชาทางการเกษตรกรรม
       ค.   ปรับปรุงวิธีการผลิตให้เป็นการผลิตเพื่อการค้า
       ง.   นำเทคโนโลยีแบบตะวันตกเข้ามาใช้ในการผลิต
13.  เศรษฐกิจหลักของเอเชียกลางขึ้นอยู่กับอาชีพใด            ที่เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศ
       ก.   เกษตรกรรม
       ข.   ปลูกฝ้าย
       ค.   ขุดน้ำมัน
       ง.   เลี้ยงสัตว์
14.  อังกฤษเข้ามาช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของเอเชียใต้ในด้านใด    
       ก.   เข้ามาจัดตั้งธนาคารเพื่อการเกษตร     
       ข.   เข้ามาลงทุนในไร่ใบชา ไร่ฝ้าย ไร่ฝิ่น
       ค.   เข้ามาตั้งมหาวิทยาลัยพัฒนาการศึกษาขั้นสูง
       ง.   เข้ามาตั้งโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปผลผลิต
            ทางการเกษตร
15.  นโยบายสี่ทันสมัยของนายเติ้ง เสี่ยวผิง เป็นการพัฒนาประเทศจีนในด้านใดบ้าง
       ก.   เศรษฐกิจ  การต่างประเทศ เกษตรกรรม การทหาร
       ข.   วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อุตสาหกรรม เศรษฐกิจ      การต่างประเทศ
       ค.   เกษตรกรรม อุตสาหกรรม การทหาร วิทยาศาสตร์     และเทคโนโลยี         
       ง.   อุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การ     ต่างประเทศ เกษตรกรรม
16.  ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับสภาพสังคมในเอเชียใต้
       ก.   มีฐานะยากจน ด้อยการศึกษา
       ข.   ยึดมั่นในระบบวรรณะ
       ค.   เป็นสังคมอุตสาหกรรม
       ง.   เป็นสังคมชนบท
17.  ประเทศใดให้ความช่วยเหลือญี่ปุ่นจนมีเศรษฐกิจที่เจริญก้าวหน้ามากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออก
       ก.   สหภาพโซเวียต        
       ข.   สหรัฐอเมริกา          
       ค.   เยอรมัน                 
       ง.   อิตาลี
18.  หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ความขัดแย้งในภูมิภาคเอเชียตะวันตกเฉียงใต้มีสาเหตุสำคัญจากเหตุการณ์ใด
       ก.   การขยายอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาและสหภาพ
            โซเวียต
       ข.   ความขัดแย้งระหว่างศาสนาอิสลามและศาสนาคริสต์
       ค.   ชาติตะวันตกสนับสนุนยิวตั้งประเทศอิสราเอล
       ง.   การแย่งชิงเส้นทางเดินเรือ
19.  ลักษณะภูมิประเทศของภูมิภาคเอเชียใต้ข้อใดไม่ถูกต้อง
       ก.   รูปร่างภูมิภาคเป็นรวงผึ้ง
       ข.   ที่ราบสูงเดคคานทางทิศใต้
       ค.   เทือกเขาหิมาลัยทางทิศเหนือ
       ง.   ที่ราบลุ่มน้ำขนาดใหญ่ตอนกลาง
20.  ก่อนที่ชาติตะวันตกจะเข้ามามีอิทธิพลในภูมิภาคเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ ดินแดนแถบนี้อยู่ภายใต้อิทธิพลของจักรวรรดิใด
       ก.   จักรวรรดิโรมัน
       ข.   สหภาพโซเวียต
       ค.   จักรวรรดิอาหรับ
       ง.   จักรวรรดิออตโตมัน



หน่วยการเรียนรู้ที่ 6
แหล่งอารยธรรมในทวีปเอเชีย

คำชี้แจง  ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. ประเทศใด ที่ได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากอินเดีย
       น้อยที่สุด
       ก.   พม่า
       ข.   ไทย
       ค.   ญี่ปุ่น
       ง.   อินโดนีเซีย
  2.  วรรณกรรมสำคัญของอินเดียเรื่องใด ที่กล่าวถึงปรัชญา ศาสนา และจริยธรรมในการดำเนินชีวิตแบบอินเดีย
       ก.   อุณรุท
       ข.   ภควัทคีตา
       ค.   มหากาพย์ภารตะ
       ง.   มหากาพย์รามายณะ
  3.  ลัทธิหรือศาสนาใด ที่ไม่ได้ถือกำเนิดขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันตกเฉียงใต้
       ก.   ศาสนาสิกข์
       ข.   ศาสนาคริสต์           
       ค.   ศาสนายูดาย
       ง.   ศาสนาอิสลาม
  4.  ชนกลุ่มใด ที่เข้ามาสร้างสรรค์อารยธรรมในดินแดน
       เมโสโปเตเมียเป็นกลุ่มแรก
       ก.   ซูเมเรียน
       ข.   อัสซีเรียน
       ค.   เปอร์เซียน
       ง.   บาลิโลเนียน
  5.  กำแพงเมืองจีน นอกจากเป็นสัญลักษณ์ของอารยธรรมจีนแล้ว ยังให้ความรู้เรื่องใดอีกด้วย
       ก.   ความแม่นยำในการคาดการณ์อนาคต
       ข.   ความเลื่อมใสศรัทธาในศาสนาพุทธ
       ค.   ความยิ่งใหญ่ของจีนสมัยจักรวรรดิ
       ง.   ความเป็นอยู่ของคนจีนโบราณ
6. ลักษณะภูมิประเทศแห้งแล้งแบบทะเลทราย ส่งผลให้เกิดลักษณะของอารยธรรมอิสลาม ยกเว้นข้อใด
       ก.   รักอิสระ อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ มีความสัมพันธ์     ทางสายเลือดในกลุ่มของตน
       ข.   ชาวอาหรับมีบทบาทสำคัญในการสร้างอารยธรรม     อิสลาม
       ค.   นับถือพระเจ้าหลายองค์ และนิยมการบูชายัญ
       ง.   สร้างอารยธรรมด้วยสงคราม
  7.  ข้อใดเกี่ยวข้องกับเมืองฮารัปปาในอารยธรรมในเอเชียใต้
       ก.   เป็นแหล่งกำเนิดอักษรมคธ (ภาษาบาลี)
       ข.   เป็นแหล่งโบราณคดีในรัฐปัญจาบ
       ค.   ปัจจุบันอยู่ในประเทศบังคลาเทศ
       ง.   ตั้งอยู่บนเทือกเขาหิมาลัย
  8.  จุดมุ่งหมายในการสร้างเข็มทิศของจีนในระยะแรก
       คืออะไร
       ก.   บูชาสวรรค์
       ข.   หาทิศในการสร้างบ้าน
       ค.   ใช้ประโยชน์ในการเดินเรือ
       ง.   หาร่องรอยที่หลบซ่อนของศัตรู
  9.  สุสานกองทัพทหารดินเผา เป็นผลงานชิ้นสำคัญในสมัยกษัตริย์พระองค์ใดของจีน
       ก.   กุบไลข่าน
       ข.   ฉินสื่อหวงตี้
       ค.   เฉียงหลงฮ่องเต้
       ง.   หงวนสีโจ๊วฮ่องเต้
10.  ข้อใดกล่าวถึง กฎหมายฮัมมูราบี ได้ถูกต้อง
       ก.   เป็นกฎหมายที่มีบทลงโทษที่เรียกว่า ตาต่อตา
            ฟันต่อฟัน
       ข.   สะท้อนชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในสมัยนั้น
       ค.   เป็นกฎหมายที่เป็นเทวโองการของพระเจ้า
       ง.   มีการพิสูจน์ความผิดโดยการสาบาน
11.  เพราะเหตุใด วัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียใต้จึงแพร่หลายไปยังประเทศต่างๆ
       ก.   ชาติต่างๆ มีความเห็นว่าวัฒนธรรมอินเดีย
            มีความเจริญกว่าของตน
       ข.   อินเดียใช้ศาสนาเป็นทางผ่านของการถ่ายทอด
            อารยธรรม
       ค.   อินเดียให้การสนับสนุน ช่วยเหลือประเทศต่างๆ
       ง.   อินเดียส่งกองทัพไปรุกรานและบีบบังคับ
12.  ความเจริญในสมัยราชวงศ์ฮั่นที่โดดเด่นที่สุด คือข้อใด    
       ก.   การเดินทางไปสืบศาสนาที่อินเดียของพระสงฆ์จีน
       ข.   การค้ากับต่างประเทศบนเส้นทางสายแพรไหม
       ค.   ศิลปะการทำเครื่องเคลือบเขียวไข่กา
       ง.   ความรู้ทางการแพทย์ฝังเข็ม
13.  ภาพจิตรกรรมฝาผนังตามวัดต่างๆ ในประเทศไทย แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากอินเดียในเรื่องใด    
       ก.   การค้า และประเพณี 
       ข.   ประเพณี และศาสนา
       ค.   วรรณกรรม และการค้า
       ง.   ศาสนา และวรรณกรรม
14.  หลักฐานทางอารยธรรมในสมัยพระเวทของอินเดีย
       คืออะไร
       ก.   คัมภีร์อาถรรพเวท
       ข.   คัมภีร์ไตรเพท
       ค.   คัมภีร์ฤคเวท           
       ง.   มหากาพย์
15.  ข้อใดเป็นความรู้ด้านการคำนวณที่ชาวอินเดียโบราณ
       คิดขึ้น
       ก.   การกำหนดค่าตัวเลขเพิ่มขึ้นตามจำนวนขีด
       ข.   การกำหนดเครื่องหมายแทนตัวเลขสิบ
       ค.   ตัวการกำหนดสัญลักษณ์ในการนับ
       ง.   การนำตัวเลขมารวมกัน
16.  ลักษณะเด่นของอารยธรรมในภูมิภาคเอเชียใต้ คืออะไร
       ก.   ภาษาและศิลปกรรม
       ข.   การค้าและการเดินเรือ
       ค.   ศาสนาและหลักปรัชญา   
       ง.   วรรณกรรมและรูปแบบการปกครอง
17.  ข้อใดไม่ใช่แนวคิดของลัทธิเต๋า
       ก.   ปล่อยทุกอย่างไปตามวิถีทางของมัน
       ข.   ใช้ชีวิตอย่างสันโดษและปล่อยวาง
       ค.   กลมกลืนไปกับธรรมชาติ
       ง.   สละชีพเพื่อชาติ
18.  ข้อใด คือ ลักษณะเด่น ของ อักษรคูนิฟอร์ม
       ก.   เป็นตัวอักษรรูปภาพ
       ข.   เป็นตัวอักษรที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
       ค.   เป็นที่มาของอักษรโรมันในปัจจุบัน
       ง.   เป็นตัวอักษรที่เขียนบนกระดาษ
19.  เข็มทิศที่ผลิตในจีนในระยะแรกเผยแพร่ไปยังยุโรปได้ โดยใคร
       ก.   พ่อค้าอาหรับ
       ข.   มาร์โคโปโล
       ค.   พ่อค้าชาวตะวันตก
       ง.   จักรพรรดิเจ็งกีสข่าน
20.  ในสมัยราชวงศ์ชิงมีการประกาศห้ามฝังเข็มเพื่อการ รักษาโรค เพราะเหตุใด
       ก.   เห็นว่าอันตรายและไม่แน่ใจว่าจะรักษาโรคหายได้     หรือไม่                  
       ข.   ต้องการเก็บไว้เป็นความลับเฉพาะคนสำคัญเท่านั้น
       ค.   เห็นว่าเป็นวิธีการรักษาที่ทารุณ
       ง.   คิดว่าเป็นวิธีการสมัยโบราณ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น